Search

ถอดบทเรียน "เยอรมนีฝ่าวิกฤตน้ำท่วม"

วัน...

  • Share this:

ถอดบทเรียน "เยอรมนีฝ่าวิกฤตน้ำท่วม"

วันที่ 12.07.2021 คือวันที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์เยอรมนีและประเทศข้างเคียงซึ่งส่งผลกระทบให้

- บ้านเรือนหลายพันหลายหมื่นหลังไม่มีไฟฟ้าใช้
- สิ่งปลูกสร้างและรถยนต์เสียหายร้ายแรง
- มีผู้ได้รับผลกระทบนับแสน, และเสียชีวิตเกือบ 200 ราย(ตัวเลขเฉพาะในเยอรมนี)

ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวใหญ่ที่แม้แต่ในประเทศไทยเองก็ได้เห็นภาพของความเลวร้ายในเหตุการณ์​ครั้งนั้น

ซึ่งวันนี้พ่อบ้านจะมาขอถอดบทเรียนว่าเยอรมนีผ่านมันมาได้อย่างไรให้พวกคุณกันนะครับ

1. การไม่รวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง

ด้วยความที่รูปแบบของการบริหารของประเทศเยอรมนีนั้น จะแยกบริหารกันอย่างชัดเจน, ทั้ง 16 รัฐ, โดยแต่ละรัฐมีข้อกำหนด, มีข้อกฎหมาย, มีนโยบายแตกต่างกันไปตามที่รัฐบาลท้องถิ่นจะบริหาร และแน่นอนว่าทีมกู้ภัยและดับเพลิงก็เช่นกัน

ซึ่งข้อดีตรงนี้ก็คือรูปแบบการบริหารแบบนี้ทำให้รัฐแต่ละรัฐนั้นไม่ต้องรอการตัดสินใจจากใครมากนัก เพราะมีอำนาจตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

จึงสามารถระดมทีมช่วยเหลือของรัฐและเมืองต่างๆ สามารถเข้าไปช่วยสนับสนุนได้อย่างและแก้ไขเหตุการณ์​ได้อย่างรวดเร็ว (เรียกได้ว่าถ้าดูในภาพข่าวเราจะเห็นรถดับเพลิงของหลายเมืองเลยที่เข้าไปช่วยลงพื้นที่ครับ)​

2. ความไวของการช่วยเหลือของภาครัฐ

คุณคิดว่าการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือน้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้จะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่?

เชื่อมั้ยครับว่าเยอรมนีนั้นอนุมัติเงินช่วยเหลือมากกว่า 400 ล้านยูโร หรือมากกว่า 15,000 ล้านบาทภายในระยะเวลา 9 วัน หรือภายในวันที่ 21 ก.ค. เท่านั้น

ถึงแม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์​ว่าค่อนข้างน้อยไปนิดแต่ส่วนตัวพ่อบ้านมองว่าถ้าในแง่ของความไวแล้วก็ทำได้ด้วยดีพอสมควร

และนอกจากนี้รูปแบบของการช่วยเหลือนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนที่พ่อบ้านชอบที่สุดก็คือการสนับสนุนในรูปแบบเงินแก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งในรูปแบบของเงินสนับสนุนฉุกเฉิน และเงินให้กู้ที่ดอกเบี้ยต่ำมากและให้กำหนดระยะเวลาคืนที่นานพอสมควรเลยทีเดียว

3. ความร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งภาครัฐและเอกชน

จากเหตุการณ์​ดังกล่าว เราได้เห็นภาพของความช่วยเหลือที่รวดเร็วมากๆ จากทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิ, หน่วยงานภาครัฐ, หน่วยงานเอกชน จนไปถึงแม้กระทั่งหน่วยงานไทยในเยอรมนี อย่างเช่นสถานกงสุล, วัดไทย ก็ให้ความช่วยเหลือและปรับพื้นที่เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าทุกภาคส่วนนั้นมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเป็นอย่างดี

โดยความช่วยเหลือนั้นจะมาทั้งในรูปแบบของ

- การส่งทีมกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ
- การเข้าไปช่วยฟื้นฟูธุรกิจ(ดั่งที่เราได้เห็นจากโครงการที่นำไวน์ที่โดนน้ำท่วมมาขายและเพิ่มมูลค่าจนเป็นของสะสม)
- การบริจาคเงินที่รวมกันแล้วนับหลายล้านยูโรจากทั้งบริษัทและภาคประชาชน
- การบริจาคสิ่งของฉุกเฉินเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยบรรเทาทุกข์​ ได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

4. ความบกพร่องของระบบการเตือนภัย

ถึงแม้ว่าที่เยอรมนีจะมีระบบการเตือนภัยทั้งในรูปแบบ ไซเรน, SMS หรือ App และมีการซ้อมอยู่เป็นระยะๆ แต่จากเหตุการณ์​นี้ทำให้รู้ได้เลยว่า มีจุดบกพร่องที่ต้องมาแก้ไขอีกพอสมควรเลย

ซึ่งนอกจากมีระบบหลายจุดนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงแล้วกลับไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และต้องยอมรับว่าน้ำมาไวมากจริงๆ จนหลายๆ คนนั้นไม่สามารถเก็บของได้ทันเลย

แต่ก็ดีที่ยังถือว่ามีบางส่วนที่ได้รับการเตือนภัยอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ ซึ่งแน่นอนครับว่าหลังจากนี้เยอรมันคงจะต้องทบทวนและปรับระบบเตือนภัยกันยกใหญ่เลยทีเดียวครับ

5. การทำประกันอย่างครอบคลุม

ต้องยอมรับว่าส่วนนึงที่หลายๆ คนเจ็บไม่หนักมากเพราะเนื่องจากที่เยอรมันนั้นคนนิยมทำประกันค่อนข้างมากถึงมากที่สุด และประกันนั้นมีวงเงินครอบคลุมความเสียหายที่สูงมาก (เรียกได้ว่าแทบจะสร้างบ้านคืนให้เลย)

และความคุ้มครองของประกันบ้านส่วนใหญ่ของเยอรมันนั้น ก็ครอบคลุมในส่วนของภัยธรรมชาติ​เช่นนี้อยู่จึงทำให้ผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้มากพอดู

และแน่นอนว่าเอาซะอุตสาหกรรมประกันภัยของเยอรมันนั้นยิ้มไม่ออกเลยทีเดียว 😅

6. บทบาทของผู้นำนั้นสำคัญ

จากเหตุการณ์​น้ำท่วมนั้นเราจะได้เห็นภาพของนักการเมืองหลายพรรคเข้าไปลงพื้นที่ในการช่วยเหลือ

และแน่นอนว่าผู้นำประเทศอย่าง Angela Merkel ก็ลงไปด้วยตัวเองเพื่อสัมผัสถึงหน้างานและประกอบกับพร้อมตัดสินใจถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันโดยทันที(แต่เค้าลงตอนเหตุการณ์​ดีขึ้นระดับนึงแล้วนะครับ)​

ซึ่งก็มีข้อดีที่ว่าการลงพื้นที่และเหตุการณ์​ในครั้งนี้เป็นหนึ่งการจุดประเด็นด้านโลกร้อนอย่างจริงๆ จังในประเทศเยอรมนี

จนเราเห็นได้เลยว่า

"ไม่มีพรรคไหนเลยที่ไม่ชูและให้ความสำคัญกับประเด็นของโลกร้อนในการเลือกตั้งครั้งนี้"

และการลงพื้นที่นั้นเป็นการลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน กค. และมาจนถึงเดือน กย. Angela Merkel ก็ยังลงไปดูหน้างานทั้งๆ ที่ใกล้จะต้องสละตำแหน่งแล้ว พร้อมกับประโยคสั้นๆ แต่ได้ใจความที่ดีต่อคนในพื้นที่อย่าง

"We will not forget you"

"เราจะไม่ลืมพวกคุณ"

#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมนี #เยอรมัน #germany

ข้อมูลประกอบบทความและอ้างอิง:

https://www.nbcnews.com/news/world/germany-s-angela-merkel-faces-questions-over-flood-response-she-n1274451

https://www.aljazeera.com/news/2021/7/18/the-floods-are-terrifying-says-merkel-as-death-toll-rises-to-184

https://www.bundesregierung.de/breg-en/news/merkel-visits-flood-hit-area-1957548

https://www.bundesregierung.de/breg-en/news/merkel-visits-flood-hit-area-1957548

https://www.artemis.bm/news/flood-insured-loss-estimate-top-end-raised-to-eur-5-5bn-for-germany-gdv/

https://www.wsj.com/articles/germanys-opposition-politicians-blame-government-for-ignoring-flood-warnings-11626694101

https://amp.dw.com/en/germany-needs-better-climate-policy-merkel-says-from-flooded-region-as-it-happened/a-58304082

https://www.bundesfinanzministerium.de/Content/EN/Pressemitteilungen/2021/2021-07-21-assistance-package-for-regions-affected-by-floods.html


Tags:

About author
not provided